ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยความพิการให้คนพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2553 ที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพ.ศ. ๒๕๔๘องค์การบริหารส่วนตำบลโคกหินแฮ่ จึงขอความอนุเคราะห์มายังท่านเพื่อประชาสัมพันธ์ ดังนี้
1. การรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2564 ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 นับถึงวันที่ 1 กันยายน 2565
(เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505 ) ที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
1. มีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่ตำบลโคกหินแฮ่ แต่ยังไม่ได้ไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือผู้สูงอายุที่ได้ย้ายทะเบียนบ้านมาใหม่ก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
2. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่
(ก) ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
(ข) ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(ค) ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำ
ผู้สูงอายุที่ประสงค์จะรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ไปลงทะเบียนเพื่อแสดงความจำนงขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2564 ด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนโดยมีหลักฐานตามที่ราชการกำหนด ณ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกหินแฮ่ ในวันและเวลาราชการ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. เพื่อจะได้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพ โดยเตรียมเอกสารหลักฐาน (โปรดนำฉบับจริงมาแสดง) ดังนี้
1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ/ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ (ในกรณีที่ผู้มีสิทธิประสงค์รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุโดยวิธีการรับเงินในนามบุคคลได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ โดยทำหนังสือมอบอำนาจพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ)
4. หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจยื่นคำขอแทน)
กรณีผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพอยู่แล้ว มีการย้ายภูมิลำเนาไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งอื่น ผู้สูงอายุต้องไปลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ภายในเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น ๆ (ภายในเดือนพฤศจิกายน 2564) โดยองค์การบริหารส่วนตำบล
โคกหินแฮ่ยังคงจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไปจนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (เดือนกันยายน 2564)
ในการนี้ ผู้สูงอายุที่เกิดระหว่างวันที่ 2 กันยายน 2504 - 1 กันยายน 2505ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่ยังไม่มาลงทะเบียน โปรดมาลงทะเบียนภายในกำหนด เพื่อรักษาสิทธิการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
2. การรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยความพิการ ให้คนพิการที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยความพิการหรือคนพิการย้ายภูมิลำเนา ที่มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลโคกหินแฮ่ตามทะเบียนบ้าน
3. มีบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ
4. ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐ
ให้คนพิการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่ประสงค์ขอรับเงินเบี้ยยังชีพความพิการ จากองค์การบริหารส่วนตำบลโคกหินแฮ่ ลงทะเบียนเพื่อแสดงความจำนงขอรับเงินเบี้ยความพิการ ด้วยตนเอง ณ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกหินแฮ่ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30น. (ในวันและเวลาราชการ)
โดยนำเอกสารหลักฐานประกอบแบบคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยความพิการ (โปรดนำฉบับจริงมาแสดง) ดังนี้
(1) บัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ
(2) ทะเบียนบ้าน
(3) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับกรณีที่ผู้รับเงินเบี้ยความพิการประสงค์ขอรับเงินเบี้ยความพิการผ่านธนาคาร
ในกรณีที่คนพิการไม่สามารถยื่นคำขอได้ด้วยตนเองเนื่องจาก เป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ หรือในกรณีที่คนพิการมีสภาพความพิการถึงขั้นไม่สามารถไปยื่นคําขอรับเบี้ยความพิการด้วยตนเองได้ ให บิดา มารดา บุตร สามี ภรรยา ญาติ พี่น้อง หรือ บุคคลอื่นใดที่รับดูแลหรืออุปการะคนพิการยื่นคําขอนั้นแทนก็ได้แต่ต้องนําหลักฐานของคนพิการ แสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย
ในกรณีคนพิการซึ่งได้รับเงินเบี้ยความพิการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหนึ่งและย้ายภูมิลำเนาไปอยู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น หรือกรุงเทพมหานคร ให้คนพิการนั้นลงทะเบียนและยื่นคําขอรับเงินเบี้ยความพิการด้วยตนเองต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ที่ตนมีภูมิลำเนา และให้ได้รับเงินเบี้ยความพิการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ในเดือนถัดไป
3. การรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ ให้ผู้ป่วยเอดส์ที่แพทย์ได้รับรองและทำการวินิจฉัยแล้ว ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ หรือผู้ป่วยเอดส์ย้ายภูมิลำเนามาอยู่ใหม่ ที่มีความประสงค์จะขอรับการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ โดยผู้มีสิทธิจะได้รับเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นผู้ป่วยเอดส์ที่แพทย์ได้รับรองและทำการวินิจฉัยแล้ว
(๒) มีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลโคกหินแฮ่
(๓) มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ หรือถูกทอดทิ้ง หรือขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู หรือไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้
เอกสารหลักฐานประกอบแบบคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ ดังนี้
1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
3. ใบรับรองแพทย์ ที่แพทย์ได้รับรองและทำการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยเอดส์
4. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ/ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ (กรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพประสงค์ขอรับเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ผ่านธนาคาร)
โดยยื่นคำขอพร้อมเอกสารหลักฐานที่กำหนด ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลโคกหินแฮ่ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. (ในวันและเวลาราชการ) ด้วยตนเอง หากไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเองได้ ให้ทำการมอบอำนาจให้ผู้อุปการะดำเนินการแทน โดยทำหนังสือมอบอำนาจพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
ในกรณีผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งได้รับเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหนึ่งและย้ายภูมิลำเนาไปอยู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น หรือกรุงเทพมหานคร ให้ผู้ป่วยเอดส์ นั้นไปลงทะเบียนและยื่นคําขอรับเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ด้วยตนเอง ต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ที่ตนมีภูมิลำเนา